อบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ วิธีการบำบัดรักษาและส่งเสริมสุขภาพตามหลักของการแพทย์ไทย
คนไทยรุ่นปู่ย่าตายายรู้จักวิธีการส่งเสริมสุขภาพและสปามานานแล้วแต่เป็นในรูปแบบของการอบสมุนไพรซึ่งเป็นวิธีการบำบัดรักษาและส่งเสริมสุขภาพตามหลักของการแพทย์ไทย ด้วยสมุนไพรไทยที่หาได้ตามท้องถิ่นของเรานี่เอง จะมีวิธีทำอย่างไรบ้างวันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการอบสมุนไพรมาฝากค่ะ
รูปแบบการอบสมุนไพร
การอบสมุนไพร ในปัจจุบันนั้นมี 2 แบบคือ
1 การอบสมุนไพรแบบแห้ง เป็นการอบสมุนไพรที่ดัดแปลงมาจากการอยู่ไฟของผู้หญิงหลังคลอดสมัยก่อนมีการอาบน้ำต้มสมุนไพรและพาตัวด้วยขมิ้นเพื่อบำรุงรักษาอาการอักเสบที่ผิวหนังและนิยมอยู่ไฟหลังคลอดด้วยการนอนบนแคร่ไม้ อยู่ไฟให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายจะช่วยกระตุ้นให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น ส่วนในปัจจุบันได้มีการพัฒนามาเป็นห้องอบแห้ง แต่ยังไม่เป็นที่นิยมเท่ากันออกจากเขต
2 การอบสมุนไพรแบบเปียก เป็นการใช้วิธีต้มน้ำในหม้อพร้อมกับสมุนไพรหลายชนิด เมื่อหม้อน้ำเดือดแล้ว เข้าแล้วค่อยแง้มฝาหม้อให้ไอน้ำสมุนไพรพุ่งออกมา เมือ่ไอน้ำของสมุนไพรที่ระเหยออกมาทำจะทำให้จมูกโล่ง หายใจสะดวก ถ้าอบเสร็จเก็บเอาน้ำในหม้อต้องไปอาบชำระล้างร่างกายช่วยเสริมสรรพคุณทางยาได้
ปัจจุบันได้นำวิธีการนี้มาพัฒนาให้เข้ากับชีวิตความเป็นอยู่สมัยใหม่โดยทำเป็นตู้อบไอน้ำสมุนไพรที่ทันสมัยขึ้นภายนอกต้องที่มีท่อส่งไอน้ำเข้าไปภายในห้องอบหรือ แบบหม้อต้มใต้ฐานที่นั่งอบ ทำเป็นตู้แล้วเข้าไปนั่งอบตัวส่วนประกอบของสมุนไพรที่ใช้อาจแตกต่างกันได้ตามวัตถุประสงค์เพื่อรักษาอาการต่างๆ เช่น ทำให้ร่างกายสดชื่น ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ช่วยขับเหงื่อผ่อนคลายความเครียด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งและลดอาการปวดตามข้อ ทางการแพทย์ในปัจจุบันได้มีการยอมรับแล้วว่าการอบตัวด้วยสมุนไพรเป็นการบำบัดรักษาวิธีหนึ่ง ศาสตร์ในการดูแลสุขภาพแบบไทย ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และมีการพัฒนา การดูแลสุขภาพ เช่น การนวดแผนไทยการนวดประคบ การอบสมุนไพร และการทำสปาผิว เป็นต้น และมีหลายสถาบัน เปิดอบรมหลักสูตร เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เช่นหลักสูตรการเรียนนวดแผนไทย นวดประคบ นวดฝ่าเท้า และ อบรมความรู้ อื่นๆในด้าน การดูแลสุขภาพแบบไทย